นายชนม์สวัสดิ์ นาคนาม นักศึกษาโครงงานปัญญาประดิษฐ์ วิทยาลัยคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เปิดเผยว่า จากเหตุโศกนาฏกรรมสะเทือนโลกเมื่อเดือนตุลาคม 2565 เนื่องจากฝูงชนเบียดกันจนเสียชีวิตระหว่างการเฉลิมฉลองเทศกาลฮาโลวีนในย่านอีแทวอนของกรุงโซล เกาหลีใต้ จากการเข้าไปเบียดของผู้คนจำนวนมากโดยไม่จำกัดจำนวนคนเข้างาน

บนถนนความยาวเพียง 40 เมตร กว้าง 3.2 เมตร แถมมีความลาดชัน ผู้คนไม่สามารถทราบสถานการณ์ภายในงานว่าหนาแน่นเพียงใด ไม่สามารถระบุคนในตำแหน่งในถนนแต่ละสายได้ เป็นสาเหตุหนึ่งทำให้เกิดสถานการณ์การเบียดกันตาย หรือ crowd crush มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 157 ราย และบาดเจ็บจำนวนมากนั้น

จึงคิดค้นนวัตกรรม “AI นับจำนวนคนเข้างานนิทรรศการ” โดย AI สามารถวิเคราะห์ได้ซับซ้อนมากกว่าสมอง หรือดวงตาของมนุษย์ที่จะมองเห็น และมีความแม่นยำ เพิ่มความสะดวกสบาย ประยุกต์เข้ากับสถานการณ์ เหตุการณ์ สถานที่ได้อย่างเหมาะสม

• สิบวันแห่งความโกลาหลของ Twitter

• HBO ต่ออายุ ‘House of the Dragon’ หลังจากรับชมตอนแรกกว่า 20 ล้านครั้ง

ยกตัวอย่างโครงการของตน คือการใช้ AI นับจำนวนคนเข้างานนิทรรศการ หรือสถานที่ที่มีคนหนาแน่น โดยโครงงานดังกล่าวสามารถระบุได้ว่าตรงไหนมีจำนวนคนหนาแน่น โดยปกติสายตามนุษย์จะสามารถประเมินจำนวนคนในบริเวณนั้นได้คร่าวๆ แต่อาจเกิดความล่าช้า และอาจเกิดความผิดพลาดสูง

“ปัจจุบันเราไม่จำเป็นต้องเหนื่อยขนาดนั้น เราสามารถใช้ AI ระบุได้ว่าจุดนี้คือคน นับได้ว่ามีกี่คนได้อย่างรวดเร็วมาก เพียงแค่เห็นผ่านกล้อง ประมวลผลด้วย AI โดยเราไม่ต้องนับเลย เช็กจำนวนคนเข้างาน มุ่งไปพื้นที่นั้นเลย ป้องกันการเกิดสถานการณ์การเบียดกันตาย เหมือนโศกนาฏกรรมที่อิแทวอน เราสามารถใช้นวัตกรรม AI นี้นับจำนวนคน ติดตามคนเดินในงาน เมื่อคนบริเวณนั้นมีจำนวนมากเกินไป ตั้งระบบส่งสัญญาณเตือนเป็นเสียง หรือแสดงเป็นแผนภาพสีบริเวณที่มีจำนวนคนหนาแน่น จะลดอัตราการเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังที่เป็นข่าวได้ และเพิ่มพื้นที่ปลอดภัยด้วยการใช้ AI” นายชนม์สวัสดิ์กล่าว

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ girdwoodchapel.net